วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

ไปดี (น่าจะ)มีสุข

เรื่องนี้อาจมีเรื่องเหลือเชื่อบ้าง อยู่ที่ดุลยพินิจส่วนตัวนะคะ เชื่อไม่เชื่อไม่ว่ากัน
   เช้ามืดของสองวันก่อนฝันว่ามีเสียงผู้หญิงร้องโหยหวน ในความรู้สึก(ในฝัน)เหมือนกับว่า เป็นเสียงของคนหาทางออกไม่เจอ ไปไหนก็ไม่ได้ เลยแผ่เมตตาไปให้ สะดุ้งตื่นขึ้นไหว้พระสวดมนต์และนั่งสมาธิตามปกติ เลยแผ่เมตตาอุทิศบุญให้อีกรอบ ทำกิจวัตรประจำวันเสร็จก็มาทำงาน สายๆแวะไปกดตังค์หน้าโรงพยาบาล มีผู้หญิงสูงวัยมาทักว่า จะขอให้ไปดูคนไข้ที่บ้านได้ไหม พึ่งออกจากโรงพยาบาลมหาราชฯมาหลังจากหยุดหายใจแล้วปั๊มขึ้น ใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่โรงพยาบาลมหาราชฯเกือบเดือน ขอเอาออกมาไว้บ้าน แต่สายให้อาหารหลุด ก็ตอบตกลงไป เพราะยังไม่มี อสมแจ้ง หรือ การส่งต่อเคสมาจากที่ใดเลย
  กลับเข้าศูนย์ฯเลยเตรียมของออกไปพร้อมกับน้องที่ทำงาน เห็นคนไข้แล้วสะดุดใจเหมือนกัน เพราะรู้สึกเหมือนเป็นคนที่อยู่ในความฝันเมื่อเช้ามืดวันนี้ รูปร่างผอม สูง แต่แกพูดไม่ได้ ไม่รู้สึกตัว หายใจขาดเป็นห้วงๆ วัดความดันโลหิตยังได้อยู่ ชีพจรเบาเร็วมาก เลยปรึกษากับญาติว่าจะทำยังไงดี ถ้าจะใส่สายยางให้อาหารอีกก็จะทำให้ แต่คงแค่ช่วยพยุงอาการไว้ แล้วการรับอาหารจะทำได้หรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ เพราะล่าสุดญาติบอกว่า อาหารไม่ย่อยดูดกลับได้เยอะมาก ฟีดนมเข้าไปก็ถ่ายออกมาเป็นนมเหมือนเดิม   ตอนที่สายหลุดก็เพราะไอแล้วขย้อนสายออกมา ญาติขอไม่ใส่สายอะไรอีก ไม่อยากให้คนไข้เจ็บ อยากให้ไปแบบสบายๆ ถามว่านับถือศาสนาพุทธหรือเปล่า ญาติบอกคนไข้จะธรรมมะธรรมโม ชอบไปวัดไปวา เลยเข้าไปบอกคนไข้ว่า "ป้า...ขอให้ป้าคิดถึงพระพุทธรูปในวิหารที่ป้าเคยไปไหว้ พระที่สวยงาม เหลืองอร่าม ให้ป้าน้อมจิตไปกราบนะ คิดถึงบุญศีลบุญทานที่ทำมา ตอนนี้สังขารเราไม่ไหวแล้ว เหมือนเรือนที่ผุพังลง ให้ป้าตั้งจิตหาเรือนใหม่ที่สวยงาม แข็งแรงนะ ตอนนี้ให้หายใจเข้านึกพุท  หายใจออกนึกโธ  พุท...โธ...พุท...โธ นึกพุท โธ ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว สูมาแก้วตังสามก็ทำแล้ว ทุกอย่างเป็นอโหสิกรรมแล้ว อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย นึกอย่างนี้นะ ทำใจให้ใส จะได้ไปสู่ที่ดีๆ ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเด้อ "
  น่าอัศจรรย์ที่คนไข้ทำท่าเหมือนรับรู้ กระพริบตา น้ำตารื้นๆคลอหน่วย หายใจช้าลงตามเสียง พุท โธ  บอกให้ญาตินำซีดีเสียงธรรมะเปิดเบาๆให้ฟังตลอดเวลา ถ้าไม่มีให้ไปเอาที่ PCU   ถ้ามีเครื่องเล่น mp3 แล้วไม่มีไฟล์ให้ไปเอาได้ เพราะโหลดไว้เยอะ
  ก่อนกลับมีหลานคนไข้มาเยี่ยม แล้วพูดว่า "เมื่อคืนหนูยังฝันอยู่เลย ว่า ป้าไปหาหนูใส่เสื้อใหม่ ตัดผมใหม่ แล้วไม่พูดอะไรเลย ได้แต่ยืนมอง" ฟังแล้วสะดุดใจมาอีก หรือคุณป้าจะขอให้หาทางออกให้จริงๆ เพราะอยู่มาได้ตั้งสองวันแบบนี้ยังไม่ไปง่ายๆ แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังหายใจได้อยู่แม้จะไม่ปกติ ความดันโลหิตก็ยังวัดได้
  วันรุ่งขึ้นเช้าไปทำงานก็ยุ่งวุ่นวายกับการออกคัดกรองเบาหวานความดันในหมู่บ้าน บ่ายก็ออกไปฉีดยาให้คนไข้จิตเวช บ่ายแก่ๆแว่บเข้าไปเยี่ยม เตรียมทั้งสายยางให้อาหาร สายสวนปัสสาวะ คิดว่าถ้ายังมีความดันโลหิตอยู่ ญาติอาจจะขอให้ใส่ให้ แต่พอไปถึงวัดความดันโลหิตไม่ได้แล้ว ชีพจรก็เบามาก ม่านตาขยายหมดแล้ว แต่ยังหายใจเฮือกๆอยู่ ญาตินำเครื่องเล่น mp3 เปิดไฟล์ธรรมะให้ฟังอยู่ข้างเตียง ญาติขอช่วยเช็ดตัว เปลี่ยนเสือผ้าให้ ตอนแรกญาติคนแรกเอาเสื้อแขนยาวสีเข้มๆลายเล็กๆมาให้ใส่ ญาติอีกคนหยิบเสื้อขาวมาให้ บอก ตัวนี้สวยกว่านะ ป้าชอบใส่ไปวัด แต่คงเกรงใจว่าใส่ไปแล้ว เลยจะเอาไปเก็บ แต่คิดว่าคนไข้น่าจะพอใจที่ได้ใส่เสื้อสีขาวมากกว่า เลยเรียกไว้แล้วเปลี่ยนให้ใหม่ ซึ่งก็ดูดีขึ้นจริงๆ บอกกับคนไข้ว่า "ใส่เสื้อสีขาวให้แล้วนะ ไปหาพระหาเจ้าได้ บ่เป็นหยังแล้ว " จากนั้นช่วยกันยกคนไข้เข้าไปในบ้าน บอกคนไข้ว่าสวดมนต์กับเสียงธรรมะที่เปิดอยู่นั้นไปนะ ให้จิตอยู่กับเสียงสวดนะ จะได้ไปดี คนไข้ดูสงบลง หน้าตาผ่องใสขึ้น เลยขอตัวกลับ
   วันต่อมาไลน์ไปถามญาติ บอกว่า คุณป้าไปอย่างสงบ สวยงามตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ขอบคุณพวกเราด้วยที่ไปช่วยดูแล เชื่อว่า ป้าแกไปดีแล้วละ
      เราก็เชื่อเช่นนั้น ไปดี มีสุข นะคะคุณป้า แค่เปลี่ยนเรือนใหม่แค่นั้น ทุกคนก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ไม่มีใครหนีพ้น ได้แต่หวังว่าถึงเวลาของเราก็อยากไปดี มีสุข เหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น