ใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้วหนอ ก้อต้องมีการนำเสนอผลงานกันก่อน ไอ้จะทำ power point ธรรมดา แบบเดิมๆ ก็ชักเซ็ง ขี้เกียจบรรยายด้วย ทำ multimedia ละกัน จะใช้โปรแกรมไหนน้อ windows movies maker ก็ไม่สวย ตัวหนังสือแตกอ่านไม่ออก โปรแกรมที่เป็น demo ก็ดันมีตัวอักษรมั่ง อะไรมั่งโฆษณาให้ซื้อของเขา พอดีลูกเล่น FB เลยแชทถามไป ลูกเลยบอกใช้ power point น่ะแหละ แต่เพิ่ม ลูกเล่นไป ออนเอ็มแล้วลูกก็บอกเป็นขั้นตอนอย่างนี้แล....
Chairin says:
*ยะได
tim says:
*ก่อนอื่น ทำตามนี้
*ดูแท็บด้านบน
*กด Insert
*แล้วดูตรงขวาสุด
*รูปลำโพง Audio นั่นแหละ
Chairin says:
*เจ้า
tim says:
*จิ้มมัน
*เลือก Audio from file..
*ละแม่ก่อเลือกเพลงที่ต้องการ
*(ตรงนี้จะรอสักครู่นึง มันจะโหลดเพลงมาใส่)
Chairin says:
*มีรูปลำโพง
*สไลด์เดียว
tim says:
*เดวก่อนจิ
*ดูแทบด้านบน
*จะโผล่มาเพิ่ม 2 อัน
*Format กะ Playback
*จิ้ม Playback
*ทีนี้ตรง Audio Options
*มันจะมีไอ้ที่จิ้มแล้วมีตัวเลือกโผล่ (เรียก combobox)
*ปกติตอนนี้มันเป็น Onclick
*จิ้มมัน แล้วเลือก Play across slides
*แล้วมันจะมีที่ติ๊ก (เรียกเช็คบ็อก) ให้จิ้ม Loop until Stopped
Chairin says:
*เด๋วๆ มันขึ้น options บ่มีสองอันนั่นลอ
tim says:
*เหะ =[]=
*งั้นลองหาดู จาก แท็บใหม่ที่มันโผล่มาง่ะ
*มันจะมีฮื้อเลือก
*(ติมไม่ชัวร์ เพราะตอนนี้ใช้ 2010 แต่ฟังก์ชั่นเล่นเพลงข้ามสไลด์นี้มันมีมาตั้งกะ 2003 ยังไง 2007 ก็ต้องมี)
*แม่ลอง printscreen แล้วส่งมาฮื้อดูลอ
*
* You cannot send this file because it appears to be in use. Close the program that is using this file and try again.
*
Chairin sends:
*
* Transfer of "Doc1.doc" is complete.
*
tim says:
*เออน่ะ
*เห็นคำว่า Play Sound ก่อ
*ที่มันมีรูปสายฟ้า
Chairin says:
*เจ้า
tim says:
*จิ้มมันแล้วลองเปลี่ยนดู นอกจาก Automatically แล้วมีอะหยังแหม?
*(เช็คถูกที่ Loop until Stopped โตยเน้อ)
Chairin says:
*play across slide
tim says:
*อันนี้แล
*ที่ทำให้เปลี่ยนหน้าแล้วเพลงมันยังเล่นอยู่
Chairin says:
*อ่อ
tim says:
*จิ้ม Play across slide ทำให้
1 เพลงเล่นเอง
*2 เปลี่ยนหน้าแล้วเพลงยังเล่นต่อเนื่องอยู่
Chairin says:
*ได้ละ ขอบใจลูกรัก
*ติมช่างเก่งเสียนี่กระไร
tim says:
*เช็คถูกที่ Loop until Stopped ทำให้ถ้าเล่นเพลงจบ มันจะเล่นเพลงเดิมซ้ำ
Chairin says:
*เจ้า
tim says:
*แค่นี้แหละจ้ะ
Chairin says:
*เด๋วๆ
tim says:
*แต่ถ้าจะทำสไลด์แบบบ่ต้องคลิก ก่อไปปรับเวลาเปลี่ยนสไลด์เอา
Chairin says:
*อันนี่ที่จะถาม
*ยะได
tim says:
*เดวเน้อ
*อะ โอเค
*ก่อนอื่น ไปจิ้มแท็บด้านบน
*Transitions
*ดูด้านขวาสุด
*จะมีหัวข้อ Advance Slide
*มีช่อง On Mouse Click (ติ๊กออก ถ้าบ่อยากให้คลิกแล้วเปลี่ยนหน้า)
*กะช่อง After << ช่องนี้ติ๊กมันเหีย แล้วปรับเวลา 00:00:00 คือ
นาที : วินาที : เสี้ยววินาที
*แล้วกด Apply To All
*(ทุกหน้าจะเปลี่ยนเองด้วยเวลาเท่ากันหมด)
*ถ้าจะให้เวลาไม่เท่ากันก็ไปจิ้มหน้าที่อยากเปลี่ยนเวลาแล้วปรับตรง After นี้
*ยะได้ยัง?
Chairin says:
*กะลัง
*ได้ละ คราวนี้complete Thanks my son.
tim says:
*อิอิ
Chairin says:
*ได้ใช้ประโยชน์จากลูกหลายน่อ
*มิเสียแรงส่งเฮียน
tim says:
*อั้นหวะ
Chairin says:
*แม่จะเอาไปเขียนบล็อก
*จะได้บ่ลืม
tim says:
*ฮาาา จ้า
*เผื่อสอนคนอื่นโตย
Chairin says:
*เจ้า
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ไปเตรียมเสบียงเลี้ยงตัวมาจ้าาา..
วันแม่ปีนี้ไปหาแม่ล่วงหน้า อยู่ให้ลูกๆนัดกินข้าวล่วงหน้า พอวันที่ 12 ก็ไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระบาทตะเมาะ จนถึงวันที่ 15 ได้อยู่กับตัวเอง ให้เวลาตัวเองเต็มที่ เตรียมเสบียงบุญ เผื่อตายวันนี้พรุ่งนี้จะได้ไม่เสียใจว่า ทำไม่ทัน ออกจาก รพ.จุดนัดพบเวลา 10 โมงกว่า ตอนแรกคิดว่าไปกันหลายคน แต่ปรากฎว่า มีไปจริง7 คน พี่เจี๊ยบเอารถไปส่ง ขออนุโมทนาบุญ ไปถึงวัดก็เกือบเที่ยงแล้วพี่เจี๊ยบอีกนั่นแหละที่เตรียมข้าวปลาอาหารให้กินกันอิ่มหนำสำราญ รอพี่รัตน์กับสามีมารับศีลแปดก่อนเข้าที่พัก เรานอนกับอาจารย์ บ่ายแก่ๆ น้องนายตามมาอยู่ด้วย ตอนแรกว่าจะนอนห้องข้างล่าง พอถึงเวลาเข้าจริงขนกระเป๋ามาขอนอนด้วย เลยได้นอนกับอ.อำไพ เรานอนอีกห้องหนึ่งคนเดียว ค่ำไปทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ กลับที่พักเกือบสามทุ่ม นั่งสมาธิต่ออีกหนึ่งชั่วโมง
เช้าตีสามกว่า ตื่นมาทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ เดินจงกรม คราวนี้ดีหน่อยที่ไม่ได้ออกไปเดินข้างล่างเหมือนคราวที่แล้ว เพราะทั้งโดนยุงกัด มดกัด ต้องระวังไส้เดือนอีก สายหน่อยกินข้าวแล้วก็พักก่อนไปปฏิบัติอีกตอน 10 โมงกับพระอาจารย์ญี่ปุ่น 11 โมง ลงมากินข้าวกัน แต่เรากินมื้อเดียวเลยนั่งเป็นเพื่อนกับหลายๆคน อ.อำไพกับน้องนายกลับบ้านวันนี้ เราต้องอยู่คนเดียวในบ้านทั้งหลัง 555+ครองความยิ่งใหญ่เพียงผู้เดียว แต่เสียวสันหลังจังว่ะ บ่ายไปปฏิบัติอีกจนถึงสามโมง กลับเข้าที่พักห้องโล่งเลย สองคนนั่นไปแล้ว... เลยเดินจงกรมต่ออีก ก่อนไปอาบน้ำ
6 โมงครึ่งไปทำวัตรเย็น ปฏิบัติต่อตามปกติ และแล้ว..ก็ได้เวลาอยู่กับตัวเอง คนเดียวจริงๆ ..ได้กลิ่นเหม็นอะไรโชยมา เลยสวดมนตร์ แผ่เมตตาบอกไปว่าต่างคนต่างอยู่นะจ๊ะ มาปฏิบัติธรรม มาอนุโมทนาบุญได้ภพภูมิที่ดีขึ้นก็อย่ามากวนกัน ข้าเจ้ากลัวนะ แล้วเอา MP3เสียบหูฟังธรรมะนอน ว่าจะเปิดไฟนอน ซักพักได้ยินเสียงกุกกักที่หน้าต่าง ลืมตาดูปรากฎว่าตุ๊กแกตัวเบิ้อเริ่ม ตาโตสะท้อนแสงไฟสีแดงแจ๋ ไอ๊ย่า ! เลยบอกว่าไปกินแมงที่อื่นนะ เดี๋ยวเปิดไฟข้างบ้านให้ไปกินแมงที่โน่นไป แล้วเลยต้องปิดไฟนอน ข่มใจหลับปลอบตัวเองว่า พรุ่งนี้พี่เจี๊ยบก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนละ หลับๆตื่นๆจนกระทั่งได้เวลาไปทำวัตร
วันนี้พระอาจารย์จะพาทัวร์ป่า แต่เราเคยไปแล้วขออยู่ปฏิบัติที่วัด เพราะตอนเช้าวันนี้ตอนเรานั่งสมาธิเห็นดวงแก้วเป็นสีๆ เห็นลักษณะเหมือนโครงกระดูกเล็กๆในดวงแก้วใสด้วย ถามพระอาจารย์ก็ว่า ลักษณะนี้เหมือนเราจิตนิ่งขึ้นแล้ว เลยมีกิเลสอยากปฏิบัติต่อให้จิตนิ่งยิ่งขึ้น บ่ายไปนั่งสมาธิคนเดียวในมณฑป ก็เห็นดวงแก้วแล้วก็เหมือนแว่นขยายส่องไปที่ปอดกับกระเพาะอาหาร ในใจรู้ว่ามีพังผืดแล้วร่างกายกำลังซ่อมแซมตัวเอง ก็ไม่รู้ทำไมเห็นอะไรอย่างนั้น ไม่ได้คิดนึกด้วย เออ เอาวะ จะทำอะไรก็ทำไป แล้วดวงแก้วนั้นก็หายไป รู้สึกเหมือนเข้าภวังค์แต่ไม่ลึก ยังได้ยินเสียงรอบข้างอยู่แต่ไม่ได้สนใจ นั่งภาวนาดูลมหายใจต่อจนเวทนาแก่ขึ้นตามลำดับเลยออกจากสมาธิ รู้สึกโปร่งโล่งขึ้น ลงจากมณฑปซักพักคณะทัวร์ป่าก็กลับมา พี่เจี๊ยบมาถึงพร้อมสามี แล้วก็ แป่วว! เราต้องอยู่บ้านนั้นคนเดียวอีกละคืนนี้ เหอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เย็น ทำวัตรเย็นแล้วปฏิบัติต่อจนถึงเวลากลับที่พัก วันนี้บอกบุญรอด หมาสามขา(amputateไปหนึ่งขา) ว่า "ไปเฝ้าหน้าบ้านให้หน่อยนะ แม่อยู่คนเดียวง่ะ" มันก็ไปจริงๆ นอนเฝ้าหน้าบันไดบ้าน เลยอุ่นใจ หลับสนิทตลอดคืนเลย ขอบใจนะบุญรอด
วันนี้กลับบ้านแล้ว รู้สึกโปร่งขึ้นมาบ้าง ถึงบ้านจะปฏิบัติต่อได้แค่ไหนนี่ มีแต่สิ่งกระทบ สิ่งเร้า แต่ก็ค่อยทำไปละกันนะ อย่างน้อยก็ได้เริ่มแล้ว
ขออำนาจบุญกุศลที่ได้ทำมาแล้วนี้จงเป็นพลวปัจจัยเป็นนิสัยตามส่งให้เกิดปัญญาญาณต่อไปด้วยเทอญ...
วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553
แม่...ผู้ยิ่งใหญ่ของลูก

เมื่อวานกลับบ้าน ไปหาแม่..
แม่ดูหน้าตาผ่องใสมาก ดูสงบอิ่มเอิบทั้้งๆที่เท้าพลิกมาสองวันก่อน ทำกับข้าวกินกันแล้วก็มานั่งคุยกันสัพเพเหระ เรื่องธรรมะบ้าง เท่าที่ฟังแม่ปฏิบัติไปได้มากพอสมควร ทำให้แม่สามารถสงบได้แม้เวลาเจ็บป่วย แม่จะหลับหัวค่ำตามประสาผู้สูงอายุที่มักตื่นตอนดึก แต่แม่ตื่นประมาณตีสามเห็นจะได้แล้วก็ยืดเส้นสายโดยการบริหารร่างกายง่ายๆ เลยบอกแม่ว่าลองใช้ตำรับโยคะที่กำหนดลมหายใจไปด้วยจะได้ประโยชน์มากขึ้น แม่บอก "ออกกำลังกายแล้วไม่ค่อยปวดหลังปวดเอว" จากนั้นแม่จะทำวัตรเช้าพร้อมวิทยุ แล้วนั่งสมาธิถึงตีห้าครึ่งแล้วจะงีบไปอีกเล็กน้อย พอเจ็ดโมงก็ตื่นมาทำกิจวัตรประจำวัน พอกลางวันก็ฟังวิทยุคลื่นธรรมะบ้าง อ่านหนังสือธรรมะบ้าง แม่บอกว่าแม่ไม่เคยเหงาแม้อยู่ตามลำพังตอนกลางวัน
ก่อนกลับบ้านพี่ชายเอาพวงมาลัยดอกมะลิมากราบแม่ พวกเราเลยพากันกราบขออโหสิกรรมแม่ เพราะจะไปปฏิบัติธรรมจะได้ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรขัดขวาง แม่อวยพรว่า "ขอให้ปฏิบัติได้ไม่มีอะไรข้องขัด ให้ได้ดวงตาเห็นธรรม ให้ได้เจโตปริยญาณ ให้ได้นิพพานในที่สุด" แม่จ๋า นั่นมันยิ่งใหญ่มากนักนะแม่ เหอะนะ..ชาตินี้ได้ไปบ้างก็ยังดี
แม่อายุ 83 ปีแล้ว จะอยู่กับเราไปอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะไม่มีใครล่วงพ้นความตายไปได้ แต่แม่ก็เตรียมเสบียงบุญของแม่ไปเยอะอยู่ อย่างน้อยแม่ก็คงมีสุคติเป็นที่ไปอย่างไม่ต้องสงสัย...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)