
บ่ายวันหนึ่ง ออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วย...
หลังจากที่นั่งถามสารทุกข์สุขดิบ ประวัติความเป็นไปเป็นมา จนกระทั่งคุณลุงอนุญาตให้ไปเยี่ยมชมห้องพระได้ ก็พากันยกโขยงไปดู มีพระเครื่อง เหรียญต่างๆเยอะมาก จนบอกกับคุณลุงว่า "น่าจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้อื่นเยี่ยมชมมั่ง" คุณลุงหัวเราะไม่ตอบว่ากระไร แต่บอกอย่างอารมณ์ดีว่า "อยากได้องค์ไหนก็เลือกเอาคนละองค์"ดูไปดูมาชอบใจหลายองค์ ที่เห็นแล้วชอบใจสุดๆคือ เหรียญหลวงปู่แหวน พอเห็นความอยากได้ก็พุุ่งขึ้นทันที แต่สติรู้โลภะเกิด คิดถึงคุณลุงที่ใจดี คุณลุงอาจไม่รู้ว่า ราคาค่างวดที่เขาบูชากันเท่าไหร่ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าเราขอมาเกิดมันราคาสูง คุณลุงก็เสียโอกาส หรือลูกหลานคุณลุงรู้เกิดไม่พอใจคุณลุงเราก็จะบาป เลยข่มความอยากได้ คิดว่าเรามีพระธาตุของหลวงปู่อยู่แล้วยังจะต้องการอะไรอีก เลยตัดใจไม่ขออะไรมาเลยสักอย่าง ทีมที่ไปด้วยพากันบูชามาคนละ 3-4 องค์ ในราคาที่ไปบูชาที่อื่นก็ไม่ได้ เพราะเป็นพระเก่า มาที่ทำงานเลยเห็นว่า เหรียญหลวงปู่แหวนที่เราอยากได้น้องเขาบูชามาพร้อมพระอื่น 4 องค์ 100 บาท เลยคิดในใจว่า คงเป็นบุญของเขาที่ได้มาไว้บูชา ส่วนเราก็ไม่เป็นไรยังไงๆเราก็มีพระธาตุอยู่ เย็นวันนั้นหลังกลับไปบ้าน เลยขอขมาแล้วยกผอบที่ใส่พระธาตุมานั่งนับ ....ไม่น่าเชื่อเลย...พระธาตุที่เราแบ่งให้ ผอ.รพ.ไปแล้วทำไมมีจำนวนเท่าเดิม นับอยู่สองครั้งก็ยังมีเท่าเดิม แถมพระธาตุที่ผอ.แบ่งมาให้ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น...ขนลุกเลยด้วยความเลื่อมใส ปิติอย่างมาก อภินิหารจริงๆ ทำให้เราเกิดความศรัทธาในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้ามากยิ่งขึ้น คิดว่าน่าจะเป็นผลจากที่เราปฏิบัติภาวนาด้วย ....สาธุ...
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
วันนี้ได้นำพระธาตุหลวงปู่แหวนไปถวายวัดปันเสา พร้อมถวายสังฆทาน นั่งสมาธิประมาณครึ่งชั่วโมง ได้พระธาตุจากพระเจ้าแสงคำเมืองมาหลายองค์ มีบางคนมาบ่นใกล้ๆว่าทำไมไม่ได้ เลยแบ่งให้ไปถึง 5 คน รู้สึกอิ่มใจเป็นอย่างมาก อานิสงค์ของการให้เป็นอย่างนี้นี่เอง ให้ไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพราะไม่รู้จักคนที่ให้ไปเลย ให้แล้วเป็นสุขจนอยากให้ให้หมด(เวลานั้น)....แต่พอเวลาผ่านไป โลภะ ความงก ครอบงำอีกแล้ว...ไม่ให้ดีกว่า กลับบ้านดีกว่า กิเลสนี่มีอานุภาพเสียจริงๆ....
ตอบลบ