วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ปฏิบัติธรรมวัดแพร่ธรรมาราม ๒



วันที่ ๒ ตื่นตีสองครึ่ง อากาศหนาวมากดีที่เอาเสื้อแขนยาวสีขาวมาด้วย สงสารแต่พี่ปุ้ยคงจะหนาว จะเอาเสื้อให้ใส่ก็คงได้ครึ่งตัวละมั้ง อิอิ ล้อเล่นนะคะพี่ปุ้ย ล้างหน้าแปรงฟันก็เดินออกจากบ้านไปศาลาแม่ชี ตีสามพอดี พระเพิ่งเคาะระฆังเตือน ไปนั่งสมาธิอีก ๑ ชั่วโมง สวดมนต์ทำวัตรเช้าแล้วก็ให้เดินจงกรมหรือนั่งสมาธิตามอัธยาศัย จนกระทั่งตีห้าก็กวาดลานวัด โหย...ใบมะขามนี่เล็กๆแต่กวาดให้เอี่ยมค่อนข้างยาก ยังใบไผ่ที่ร่วงลงมาอีก แถมกวาดเสร็จร่วงตามหลังอีกตรึม ขันติๆๆๆ ฟังธรรมะไปด้วยกวาดไปด้วย เห็นใจที่กำลังจะแกว่งไปตามอารมณ์ เลยต้องสงบจิตสงบใจ เห็นลานวัดสะอาดไม่มีใบไม้ ก็เห็นใจที่ฟูอีก เออ ฟูๆแฟบๆไปเถอะนะใจ

กวาดเสร็จล้างมือไปช่วยโรงครัวเตรียมอาหาร เด็ดๆหั่นๆ เห็นความพิถีพิถัน ซึ่งคุณผ้าขาวทั้งหลายก็บอกว่า เราทำให้พระฉันต้องประณีต ไม่ใช่สักแต่ทำลวกๆ ก็จริงของเค้านะ มะเขือก็ต้องเอาที่ดำๆออก ไม่ใช่หั่นไปทั้งหมด โธ่ คุณป้าขา ข้าเจ้าแก่แล้ว ตาก็ไม่ดี หลงๆไปบ้างไรบ้างก็อย่าดุนักเลย แม่ครูโอ่งว่า เหอะๆผิดเป็นพยาบาลละ ไม่ใช่ผิดเป็นครูเด้อ น่านนน ไม่ได้ช่วยกันบ้างเลยนะคะแม่ครูขา เห็นใจที่ขุ่นเล็กๆอีกแล้ว ปล่อยๆไปบ้างก็ใสขึ้นอีกละ เออ ก็เป็นบทฝึกจิตใจอีกเหมือนกันนะ

เช้านี้ไปขออนุญาตคุณแม่ชียนต์ออกไปซื้อข้าวใส่บาตรที่ตลาด ที่จริงกะไปส่งพี่ปุ้ยซื้อสะไบด้วย เพราะสะไบที่ใช้อยู่มันลื่น เดี๋ยวก็หลุดๆ ไม่รู้ว่าเอารถยนต์ออกไปได้ เลยพากันเดินออกไป ไกลเหมือนกันนิ ไปก่อนหกโมงครึ่งเพราะพระจะออกเดินบิณฑบาตรเวลานี้ ซื้อข้าวที่ร้านในตลาดใส่โถให้พร้อมทัพพี ไปแวะซื้อดอกไม้กับขนม ยาคูลย์ ก่อนมานั่งรอที่หน้าธนาคาร วันนี้พระอาจารย์เอกราชออกบิณฑบาตรด้วย  ก็เห็นปกติดี พอใส่บาตรเสร็จก็แอบแวะหากาแฟทานสองคนพี่ปุุ้ยด้วย แม่ค้าบอกเป็นน้ำๆได้ พระอาจารย์สั่งไม่ให้ซื้อของขบเคี้ยว ปาท่องโก๋ก็ไม่ได้ เจ้าค่ะๆ รับทราบเจ้าค่ะ รีบๆซดกาแฟแล้วรีบไปซื้อสะไบก่อนพระอาจารย์จะพาคณะสงฆ์มาเจอนั่งเจี๋ยมเจี๊ยมไม่กลับไปวัดซักที

ถึงวัดไปช่วยกันยกอาหารขึ้นศาลาเตรียมฉัน แล้วรีบไปศาลาพระสงฆ์ ฟังเทศน์จากพระที่เทศน์เกี่ยวกับอริยทรัพย์ ๗ ประการ ได้แก่
1. ศรัทธา - เชื่อว่าทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว ตั้งมั่นที่จะสร้างความดี
2. ศีล - รักษากายวาจาให้เรียบร้อย  ให้เป็นปกติ
3. หิริ - ละอายใจตัวเองต่อการกระทำความชั่ว 
4. โอตตัปปะ - สะดุ้งกลัวต่อผลของความชั่ว 
5. พาหุสัจจะ - สนใจในการสดับตรับฟัง ศึกษาความรู้อยู่เสมอ 
6. จาคะ - เสียสละแบ่งปัน มีน้ำใจ
7. ปัญญา -รู้บาปบุญคุณโทษ รู้ดีรู้ชั่ว สามารถพิจารณาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง

กลับจากศาลาพระสงฆ์ก็ปฏิบัติกิจวัตรเหมือนเมื่อวาน แต่พิเศษกว่าที่พรุ่งนี้เป็นวันมาฆบูชา จะมีคณะผ้าป่ามาจากรุงเทพฯ เลยต้องเตรียมทำอาหารพรุ่งนี้เยอะขึ้นกว่าเดิม
วันนี้มีเพื่อนกระรอกมาเยี่ยมๆมองๆ น่ารักดี ไม่มีอะไรให้กินนะ อีกบ้านเขาเอากล้วยให้กินแล้ว


ปฏิบัติธรรมวัดแพร่ธรรมาราม ๑


ปีนี้ตั้งใจไปปฏิบัติธรรมที่วัดแพร่ธรรมาราม วัดที่มีหลวงพ่อกัณหาเป็นเจ้าอาวาส แต่มีพระอาจารย์เอกราชเป็นประธานสงฆ์ดูแลอยู่ แล้วพระอาจารย์เอกราชก็อาพาธเพราะทำงานหนัก (คุณผ้าขาวที่อยู่วัดบอก) ก็เลยต้องให้พระอาจารย์ต้องน้องพระอาจารย์เอกราชดูแลเรื่องในวัดอีกที ความจริงพระอาจารย์เอกราชก็ยังทำงานได้เพียงแต่ท่านมุมานะมาก หลวงพ่อใหญ่เกรงจะไม่หายซักทีเลยต้องขอให้ท่านหยุดพักบ้าง(อ้างอิงจากคุณผ้าขาวอีกทีค่ะ)

สรุปว่าสองคนกับพี่ปุ้ยไปปฏิบัติธรรมโดยไปขอคุณแม่ชียนต์ก่อน พอท่านอนุญาตก็ไปขอศีลจากพระอาจารย์โอ(พระอาจารย์ต้องไม่อยู่) ในตอนเช้าแปดโมงพร้อมกัน ๙ คน มีพานดอกไม้ ๑ พานแล้วเดินขบวนไปนั่งแถว ขอศีลแปด พอดีท่องไปก่อนเลยไม่มีปัญหาอะไร แล้วท่านก็ให้โอวาทว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรมเหมือนกัน ให้ช่วยกันทำงานให้วัดไม่ว่าทำครัว กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำ ก็เป็นบุญเป็นกุศลทั้งสิ้น จากนั้นก็ตามคุณผ้าขาวไปช่วยเตรียมอาหารขึ้นชั้นบนสำหรับถวายพระ ก่อนไปศาลาฟังพระเทศน์ แล้วกล่าวคำถวายสังฆทานก่อนลงมาเอากะละมังขึ้นไปศาลาแม่ชี ศาลานี้จะใช้เป็นทั้งกินข้าว ปฏิบัติธรรม ทำวัตรเช้า-เย็น ที่อ่านหนังสือธรรมะ
ผ้าขาวบวชใหม่นั่งรอสัญญาณระฆังไปตักอาหาร


พอสัญญาณระฆังดังจากคุณแม่ชีหัวแถว ทุกคนก็กราบพระสามครั้งก่อนลุกขึ้นเดินแถวไปตักอาหารใส่กะละมังของใครของมัน อาหารเยอะล้วนแต่เจทั้งนั้น ทั้งจากที่บิณฑบาตรมาและผ้าขาวแม่ชีทำจากโรงครัว เลือกตักที่ต้องการกิน แต่ดูท่าทางจะเผ็ด บางอย่างก็หน้าตาแปลกๆไม่กล้าตัก เลยได้มาไม่กี่อย่างรวมๆในกะละมัง พอถึงที่นั่งก็ต้องนั่งรอจนกว่าจะได้สัญญาณอีกครั้ง ก็ยกมือไหว้ขอบคุณผู้ให้อาหาร(ในใจ)แล้วถึงตักอาหารเข้าปากได้ แรกๆไม่เผลอเลย พอวันสุดท้ายก่อนกลับลืมตัวหยิบปาท่องโก๋แทะเล่นก่อนได้รับสัญญาณเลยโดนเตือน อิอิ เสียฟอร์มเลย...

กินข้าวเสร็จต้องไปล้างกะละมัง ก่อนกลับไปบ้านพักที่ตอนแรกได้อยู่ห้องโถงใหญ่รวมกับเด็กๆ แต่ขออนุญาตคุณแม่ไปอยู่บ้านที่สงบหน่อย เลยได้หลังติดกับสระน้ำหลังสุดท้าย ไกลหน่อย แต่สัปปายะดี โล่ง กว้างพอที่จะนอนได้สักสิบคนมั้ง แต่นอนสองคน เลยสบาย มีทางเดินจงกรมอยู่ข้างบ้านด้วย เหมาะเหม็งเลย



๑๑.๐๐ น. ไปลงชื่อเข้าชั้นเรียน เอ๊ย นั่งสมาธิ ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง วันแรกพอนั่งได้ กายสงบใจไม่สงบ คิดโน่น นั่น นี่ นู่น โอ๊ยสารพัด นาฬิกาก็ขยันตีบอกเวลาจัง ทุกสิบห้านาทีเลย พอหมดเวลาค่อยโล่ง กลับบ้าน แต่ยังขยันนั่งต่ออีกนะ สงบใช้ได้ มีงูตัวเล็กมาเยี่ยมด้วย เลยบอกว่ามาดีนะ มาปฏิบัติธรรมเดี๋ยวแบ่งบุญให้ เลยเลื้อยหายไป แอบไปงีบนิสสนึง ปลุกเวลาไว้ก่อนสามโมงเพราะต้องไปกวาดถนนหน้าศาลาแม่ชี แล้วถึงไปกินน้ำปานะ ก่อนช่วยกันเตรียมอาหารสดที่จะทำกับข้าวพรุ่งนี้ ซึ่งที่นี่จะพิถีพิถันเรื่องการทำอาหารมาก เหมือนแดจังกึมเลย แต่ตอนนี้มึนจังแก เพราะโดน "แหบ"หลายอย่าง ห้าๆๆๆ ค่อยเล่าพรุ่งนี้นะ

๑๗.๐๐ น. ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปลงชื่อทำวัตรเย็นนั่งสมาธิก่อน ๑ ชั่วโมง แล้วสวดวัตรเย็น ก่อนนั่งสมาธิอีกจนถึงสามทุ่มถึงกลับบ้านพัก

หลับแระ...ออมแรงไว้ เด๋วตื่นตีสองครึ่ง ว่าแต่ว่าหิวนะ ท้องร้องจ๊อกๆ  ...น้อยไป...โครกครากๆดังๆเลย

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สวดชัยมงคลคาถา


เสียงพระอาจารย์เอกราช วัดแพร่ธรรมาราม  อ.เด่นชัย จ.แพร่ ไพเราะมาก สวดชัยมงคลคาถาค่ะ...

ขอบคุณเสียงจาก http://www.jaiphensook.net/
หากไม่สมควรจะแจ้งให้ลบก็ได้นะคะ เพราะไม่ทราบว่ามีลิขสิทธิ์หรือไม่ เพียงแต่ฟังแล้วไพเราะ อยากให้โอกาสคนอื่นได้ฟังต่อบ้าง สำหรับรูปภาพพระอาจารย์ได้ถ่ายมาตอนที่ไปเยี่ยมที่วัดค่ะ ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็จะไปปฏิบัติธรรม คิดว่าจะถือโอกาสขออนุญาตด้วยเลย